เลซิตินจัดเป็นสารอาหารที่สามารถพบได้ในพืชและสัตว์ เช่น อาหารจำพวกถั่ว ธัชพืช ถั่วเหลือง ถั่วลิสงข้าวโพด เมล็ดฝ้าย ในผักชนิดมีหัว เช่น กะหล่ำดอก แครอท กะหล่ำปลี ในเนื้อสัตว์ รวมทั้งไข่แดง นม เนย ในผลทางวิจัยระบุว่าเลซิตินสามารถช่วยให้ลำไส้ลดการดูดซึมไขมัน ทำให้ระดับของคอเลสเตอรอลในเลือดลดลงได้ ที่สำคัญคือ ช่วยเสริมสร้างการทำงานของตับ ลดการสะสมของไขมันที่ตับหรือภาวะไขมันพอกตับ
เนื่องจากเลซิตินเป็นสารธรรมชาติ ซึ่งประกอบด้วยกรดไขมัน คือ ฟอสเฟต (Phosphate) และโคลีน (Choline) ซึ่งเป็นวิตามินกลุ่มเดียวกับวิตามินบี โคลีนมีส่วนช่วยให้เซลล์ตับมีการเผาผลาญไขมันได้อย่างปกติ ผู้มีปัญหาไขมันคอเลสเตอรอลในเลือดสูงมักมีการสะสมของไขมันที่ตับหรือภาวะไขมันพอกตับ ส่งผลให้เซลล์ตับทำงานผิดปกติ ทำให้ตับอักเสบและเป็นตับแข็งได้ในที่สุด เลซิตินจึงมีส่วนสำคัญในการช่วยบำรุงตับ ทำให้การทำงานของตับเป็นปกติ เหมาะกับผู้ที่ต้องการบำรุงตับ ผู้ที่ต้องเผชิญความเครียดเป็นประจำ หรือผู้ดื่มสุราเป็นประจำ
ซึ่งวิตามินบำรุงตับที่จะไม่พูดถึงไม่ได้คือ เลซิติน จากกิฟฟารีน lecithin ที่มีส่วนผสมชูโรงอย่างแคโรทีนอยด์ จากธรรมชาติถึง 4 ชนิด ได้แก่ แอฟา แคโรทีน, เบต้า แคโรทีน, แกมม่า แคโรทีน และ ไลโคปีน นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของวิตามินอี ที่จะช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพของแคโรทีนอยด์ให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น และยังได้ใส่ส่วนผสมสำคัญอย่างเลซิตินที่มีคุณสมบัติเข้ากันได้ดีกับน้ำและน้ำมัน ช่วยในการทำลายโคเลสเตอรอลในเลือดให้แตกตัว ช่วยลดการสะสมของไขมันที่ตับ และลดการสะสมของไขมันหลอดเลือดได้เป็นอย่างดี
ความแตกต่างระหว่าง เลซิติน กิฟฟารีน และ เลซิตินตามท้องตลาดทั่วไป
เมื่อเลซิตินจับมือคู่กับแคโรทีนอยด์จากธรรมชาติ 4 ชนิด และวิตามินอี จะช่วยปกป้องร่างกาย ดังนี้- ยับยั้งการเข้าจู่โจมของอนุมูลอิสระต่อเซลล์ตับ ทำให้ป้องกันตับอักเสบ
- ปกป้องเซลล์ตับจากสารพิษ โดยเฉพาะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมทั้งภาวะคนที่มีน้ำตาลในเลือดสูงในคนไข้เบาหวาน
- ป้องกันการจู่โจมของอนุมูลอิสระต่อไขมันในเลือด และลดการออกซิเดชั่นของไขมันในหลอดเลือด
- ลดการทำลายผนังหลอดเลือดจากอนุมูลอิสระ ลดการเกิดไขมันสะสมที่ผนังหลอดเลือด ป้องกันภาวะหลอดเลือดแข็งตัว ลดโอกาสการเกิดหลอดลือดตีบตันของอวัยวะ
- ป้องกันสารพันธุกรรมจากการจู่โจมของอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งทุกชนิด
- ป้องกันเซลล์ผิว ช่วยให้ผิวพรรณ สดใส อ่อนวัย
- ป้องกันการกิดมะเร็งตับจากพิษ Aflatoxin B1 (พิษจากเชื้อรา) ซึ่งการใช้แคโรทีนอยด์และวิตามินอีร่วมกัน จะส่งเสริมประสิทธิภาพการต้านออกซิเดชั่นได้ดียิ่งขึ้น
- ผู้ที่ดื่มเหล้าเป็นประจำ
- ผู้ที่เป็นไวรัสตับอักเสบ บี และซี
- ผู้ที่มีอาการเกี่ยวกับการทำงานของตับไม่ปกติ การย่อยอาหารไม่ดี แน่นท้อง จุกเสียดเป็นประจำ อ่อนเพลียง่าย
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือมีประวัติคนในครอบครัวที่มีความเสี่ยงต่อการเป็น โรคเกี่ยวกับตับ ไขมันพอกตับ เบาหวาน อ้วน โรคหัวใจ อัมพฤกษ์ อัมพาต มะเร็ง ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง โคเรสเตอรอลสูง ไตรกลีเซอไรด์สูง
- ผู้ที่ต้องการบำรุงตับ
- ผู้ที่ต้องการบำรุงผิวพรรณ
- ผู้ที่ต้องการบำรุงสมอง ป้องกันอัลไซเมอร์
- ผู้ที่ต้องการบำรุง และปกป้องระบบหลอดเลือดและหัวใจ
น่าสนใจครับ