Blog

“นพ.พิเชฐ” คุยเรื่อง กระชายขาว รักษาโควิด-19 ได้หรือไม่-กินร่วมกันกับฟ้าทะลายโจรได้หรือเปล่า?

“นพ.พิเชฐ” คุยเรื่อง กระชายขาว รักษาโควิด-19 ได้หรือไม่-กินร่วมกันกับฟ้าทะลายโจรได้หรือเปล่า?

รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และ อดีตนายกสภาการแพทย์แผนไทย ได้พูดคุยในรายการโหนกระแส บอกว่าในการแพทย์แผนไทย ถ้าสมุนไพรมีรสเผ็ดร้อนกระตุ้นธาตุไฟ ธาตุไฟมีส่วนที่ตรงกับแพทย์แผนปัจจุบันคือภูมิคุ้มกัน พอกินของเผ็ดร้อนกระตุ้นให้เกิดภูมิคุ้มกัน ซึ่งเรามีภูมิคุ้มกันทั่วไปและภูมิคุ้มกันเฉพาะ ภูมิคุ้มกันเฉพาะจะเกิดก็ต่อเมื่อได้รับการฉีดวัคซีน ถึงจะเกิดภูมิคุ้มกันเฉพาะโรค เฉพาะอย่าง แต่เบื้องต้นที่จะปกป้องเรา คือภูมิคุ้มกันทั่วไป ได้จากอาหารการกิน การออกกำลังกาย การหายใจเอาอากาศบริสุทธิ์…

นพ.พิเชฐ ได้เผยว่า กระชายต้องเรียกว่าเป็นสมุนไพรที่เราใช้มานาน แต่การใช้ของคนไทยเรา จะใช้ลักษณะปรุงเป็นอาหาร ถ้าใช้ในตำรายาไทยก็มี เช่น ตำรับยาตรีกาฬพิษ จริงๆ ตำรับนี้ถือว่าดีมาก แปลตรงตัวคือของสามอย่างที่สามารถรักษาโรคตามกาลหรือป้องกันพิษเข้าร่างกายได้ด้วย ในชีวิตประจำวันไม่ค่อยมีใครพูดถึงเพราะเป็นเรื่องของแพทย์แผนไทย มันประกอบไปด้วยการใช้รากกระเพราแดง เหง้าข่า แล้วก็หัวกระชาย แต่จริงๆ กระชายโดยรวมจริงๆ เวลาใช้เรามักไปเน้นตรงนมกระชาย หรือแง่งกระชาย หรือรากกระชาย แต่จริงๆ ตรงหัว หรือเหง้าใช้ได้เหมือนกัน รักษาท้องอืดท้องเฟ้อ แก้โรคในปาก กับใช้นมกระชายคือรากกระชาย ใช้บำรุงกำลัง คล้ายๆ โสม แต่เนื่องจากกระชาย ขิง ข่า ตะไคร้เป็นยาลดร้อน ถ้ากินติดต่อกันนานๆ ทุกวัน จะมีผลข้างเคียง จะทำให้ร่างกายร้อนเกิน เกิดร้อนใน มีกระบวนการบางอย่างของร่างกาย ทำให้เซลล์ประสาท ทำงานไม่สมดุลได้ ตำราหรือองค์ความรู้แพทย์แผนไทยไม่นิยมให้กินอย่างใดอย่างหนึ่งนานเกินไป ติดต่อกันนานเกินไปมันจะเสียสมดุลของร่างกาย

แม้แต่กระชาย พูดตรงๆ เคยเห็นมั้ยเอามาตำน้ำพริกจิ้มผัก ไม่มีนะครับ แต่เอามาทำเครื่องแกง พอทำเครื่องแกงแล้วก็เอาไปแกง การกินสุกจะได้ประโยชน์มากกว่า แต่การกินส่วนที่สกัดออกมา อาจไม่เกี่ยวกับสุกหรือดิบอย่างแคปซูน อาจบอกได้ยากว่าดิบหรือสุก เพราะสกัดมาแล้ว เขาพยายามดึงสารในกระชาย ซึ่งมีเยอะมาก เช่นที่พูดเรื่องที่มีผลการทดลอง ม.มหิดล เช่นต้านโควิด มีสองกลุ่มใหญ่ๆ มีสารที่เจอตอนนี้ประมาณ 10 กว่าชนิด บางตัวต้านอักเสบ บางตัวในหลอดทดลองต้านมะเร็งด้วย แต่มันเป็นการวิจัยในหลอดทดลอง การวิจัยในสัตว์ทดลอง ไม่ได้บอกการเป็นพิษ เมื่อเรากินอาหารเราใส่ให้อาหารมีรสชาติ เราไม่ใส่เยอะอยู่แล้ว แต่ถ้าเราไปกินสกัดต้องระวัง เหมือนเรากินยาพาราฯ วันละเม็ด เกิน 10 วันก็ไม่ได้แล้ว เพราะมีผลเสียต่อตับ อย่างสารตัวนึงในกระชาย โบเซนเบอร์จินเอ มีการทดลองว่าเอาเซลล์มะเร็งสี่ชนิดมามันต้านได้ดี แต่เอาเซลล์ตับมา มันทำลายเซลล์ตับด้วย หรือการทดลองที่อ่านในเปเปอร์วิจัย ที่ดูข่าว การทดลองที่มหิดล เขาเอามาทดลองกับเชื้อโควิด-19 เอาเชื้อมาและเอาสารสกัดกระชาย ซึ่งมีสาระสำคัญสองตัวที่เขาจำแนกออกมา คือพิโนสโตรบิน และ แพนดูราทินเอ พบว่าพอเอามาใส่กับเชื้อโรค มันฆ่าเชื้อโรคได้ดีกว่าขิงถึง 20 เท่า ดีกว่าฟ้าทะลายโจร 20 เท่า

สารในกระชายขาวนั้นไม่ใช่สร้างภูมิ สารตัวนี้เอาไปฆ่าเชื้อโรคหรือยับยั้งไวรัสได้ในหลอดทดลอง แต่ในคนยังไม่มีการทดลอง ถ้ากินไปปริมาณที่เหมาะสมมันก็ไม่โอเวอร์โดส ถ้ากินเป็นอาหารเหมาะสมอยู่แล้ว ถ้ากินเป็นน้ำดื่ม ถ้าดื่มทุกวันไม่น่ามีปัญหา แต่ถ้ากินวันละขวดสองขวดทุกวันมันโอเวอร์ คิดว่ามากไป แต่เราไม่มีการวิจัยที่ชัดเจน อาจจะได้แต่เสี่ยงมั้ยก็มีสิทธิ์เสี่ยง แต่งานวิจัยนึง เขาบอกว่าถ้ากินทุกวันไม่ควรเกิน 7 วัน เหมือนยาดองเหล้า เขากินหน่อยเดียว ไม่มีใครกินทั้งขวดทั้งแบน ฉะนั้นสิ่งที่มีการวิจัยศึกษาทดลอง การทดลอง มันใช้หลักการวิทยาศาสตร์ ไม่เป็นพิษ ปริมาณเหมาะสม ไม่มีสารปนเปื้อน ตรงนี้ยังไม่มีการวิจัยที่ชัดเจน แต่ที่ชัดเจน ในทางภูมิปัญญาคนไทย เราใช้กระชายมานานแล้ว ในอาหาร ฉะนั้นการต้มดื่มก็เหมือนเป็นอาหาร ปรับวิธีได้ แต่ถ้าเราใส่น้ำผึ้ง น้ำผึ้งเป็นยาเย็นจะลดความร้อนของกระชายได้ด้วย แล้วมะนาวเป็นยาลดเปรี้ยว ถึงจะเป็นยาร้อนแต่มันแก้ การกินของเผ็ดร้อนเยอะๆ จะทำให้แห้ง ทำให้ปากแห้งจมูกแห้งได้ สมมติกินกระเทียมจะรู้สึกปากแห้ง อันนี้เป็นผลข้างเคียงของการลดร้อน การใส่ยารสเปรี้ยวจะทำให้ชุ่มชื่นขึ้น การใส่ของหวาน ยารสหวานทำให้ชุ่มชื่นขึ้น มันสมดุลกัน เหมือนตำรับยาไทย มีตัวคง ตัวช่วย ตัวคุม อะไรประมาณนี้

เคยอ่านการวิจัยงานหนึ่งเขาบอกว่าไม่ควรกินติดต่อกันนานเกิน 7 วัน เหมือนเรากินอาหารใส่กระชาย เราก็ไม่กินทุกวัน ต้องปรับไปเรื่อยๆ เหมือนเรากินแกงขี้เหล็ก นานๆ กินที การกินทุกวันก็มีผลเสีย ตำรับยามีหลายอย่างที่ใส่กระชาย เช่นตำรับยาเลือดงามเป็นยาบำรุงเลือดสำหรับสตรี มันมีรายละเอียดหลายตัว มีสมุนไพรอีกหลายตัว รายละเอียดทั้งหมดจำไม่ได้แต่รู้ว่ามีกระชายอยู่ในตัวนี้ แต่มันเป็นยาสามัญประจำบ้าน ไปเปิดดูได้ แต่ต้องทำเป็นชุด ตัวที่ ณ เวลานี้ถ้าจะกินน้ำต้มกระชายอย่างเดียว เราเปลี่ยนมากินน้ำต้ม รากกระเพรา เหง้าข่า หัวกระชาย มันจะสมดุลกัน ตรงกับตำรับที่จะป้องกันพิษ คำว่าพิษสมัยโบราณคือสิ่งเล็กๆ ที่มองไม่เห็น อย่างแบคทีเรีย ไวรัส ก็เอายาไปป้องกัน ลด กระทุ้งพิษอะไรต่างๆ ออกมา

แล้วฟ้าทะลายโจรกับกระชายขาว กินร่วมกันได้มั้ย?
“โดยหลักแล้วมันก็ไม่ได้มีข้อห้ามหรือข้อเสียอะไรที่จะกินทั้งสองตัว แต่ประโยชน์ที่ได้มากน้อยแค่ไหนอาจจะตอบยาก ฟ้าทะลายโจรเป็นยารสขมจัด เป็นยาเย็น ส่วนกระชายเป็นยาร้อน กินไปก็บาลานซ์ แต่มีข้อมูลบางส่วนที่เอาไปใช้ในเรือนจำ ให้ทั้งสองคู่กันไป กลุ่มนึงให้กระชาย กับฟ้าทะลายโจร กลุ่มนึงให้ฟ้าทะลายโจร กลุ่มที่ให้ฟ้าทะลายโจรอย่างเดียวดีกว่า ถ้าตามหลักแผนไทย เย็นจัดกับร้อนจัด มาเจอกันมันก็หมดฤทธิ์ เหมือนหยินกับหยาง แล้วตามคัมภีร์แพทย์แผนไทยผลข้างเคียงฟ้าทะลายโจรอันนึงคือทำให้เยื่อเมือกต่างๆ มันแห้งไป ก็ไม่ดี เชื้อโรคเข้าง่าย แต่ถ้ากินไม่หวังผลกับโควิด-19 เลย อาจไม่มีผลเสียอะไร แต่ตามความเห็นผม ฟ้าทะลายโจร ตัวแอนโดรกราโฟไลต์ ที่ทดลองมาแล้ว ที่บอกว่ามันใช้ตามวิธีคิดทางการแพทย์แผนปัจจุบันแล้วนะ เอาสารออกมาเป็นตัวเด่น พบว่าสารตัวนี้ไม่ได้ป้องกันนะ กรมวิทย์ฯ ทดลองแล้ว มันไม่ได้กระตุ้นให้เกิดสารป้องกันการเข้าเซลล์ แต่มันป้องกันการแบ่งเซลล์ มันเลยรักษาได้”

สำหรับส่วนที่เขาสกัดเป็นเม็ดๆ ถ้าจะให้ปลอดภัยต้องดูที่ฉลาก อย่างแรกขึ้นทะเบียน อย. แน่ๆ อย่าไปซื้อออนไลน์ ขายตรง ถ้าเราไปซื้อข้างกล่องบอกปริมาณสาร บอกวิธีกิน เราก็จะปลอดภัย เราก็คงบอกไม่ได้บริษัทไหนมีสารมากน้อยเท่าไหร่ เราต้องว่าตามที่เขากำหนดไว้” และไม่ควรกินติดต่อกันนานเกินไป เหมือนยาพาราฯ ไม่เป็นพิษภัย แต่ถ้ากินติดต่อกันนานๆ ตับรับมือไม่ไหว”

ที่มา โหนกระแส

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *